ผมเคยได้ยินมาว่าคนเราเมื่อเข้าสู่วัย 30 หลายๆ สิ่งในชีวิตจะเปลี่ยนไปรวมถึงเรื่องนิสัยและความคิดด้วย เพราะเป็นวัยที่ได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาแล้วตั้งแต่เรียนจบ และผ่านการทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว

ผมเลยลองมานั่งสรุปสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้มาไม่ว่าจะเป็นฟังคนอื่น อ่านเรื่องราวคนอื่น พูดคุยกับคนอื่นแล้วรู้สึกว่าเรื่องนั้นตรงกับความคิดตัวเอง ณ ช่วงเวลาที่อายุ 30 ปี ซึ่งได้เขียนไว้ช่วงปี 2020 หรือ 2563  อยากลองมาแชร์สิ่งที่สรุปด้วยกับหัวข้อ “ 20 ข้อคิดกับชีวิตวัย 30 “ ครับ

การเงิน

1.ซื้อของแบบผ่อน 0% อาจจะไม่ได้ดีเสมอไป ผมเคยคิดว่าผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ทำให้ชีวิตสบายที่ไหนได้เกือบฉิบหายมาแล้ว เดือนแรกๆ ที่เริ่มผ่อนอะไรสักอย่างมันก็ค่อนข้างก็โอเค แต่บางทีผ่านไปสักเดือนสองเดือนมันจะมีรายจ่ายบางอย่างโผลมา หรืออยากได้อย่างอื่นต่อทำให้หมุนเงินไม่ทัน จากโปรโมรชั่นผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์เดือนนั้น อาจจะกลายเป็นจ่ายขั้นต่ำแล้วก็โดนคิดดอกเบี้ย “ถ้ายังไม่รู้จักบริหารเงินหรือไม่มีเงินสำรองหรือความสามารถที่จะซื้ออะไร อย่างพึ่งผ่อนอะไรเลยดีกว่า”

2. ใช้บัตรเครดิตให้ดีมีประโยชน์ บัตรเครดิตหลายใบมีประโยชน์มีส่วนลดจากการใช้จ่ายเพราะแต่ละบัตรก็มีโปรโมชั่นต่างกัน แต่บางที่ก็ทำให้เราใช้จ่ายเกินจำเป็นหรือลืมไปว่ารูดใบไหนไปบ้าง ใบไหนครบกำหนดจ่ายบ้าง  “ถ้ายังจัดการรายจ่ายแต่ละเดือนไม่ได้มีใบเดียวหรือสองใบก็น่าจะดีกว่า” เพราะยอดการใช้จ่ายจะได้ไม่กระจายหลายที่

3. คนที่เรามองว่าเค้าชีวิตดี อาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป หลายคนที่เรามองเค้าว่าที่ไลฟ์สไตล์ดูดี น่าอิจฉาแต่เบื้องหลังก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็น เพราะมีทั้งเป็นหนี้ ไม่มีเงินเก็บและไม่มีความสุข

4. เงินเก็บสำรองฉุกเฉินจำเป็นที่สุด วันที่ต้องใช้เงินหรือมีรายจ่ายจำเป็นแต่ไม่รู้หันหน้าไปพึ่งใคร เงินเก็บของเรานี่แหละที่จะช่วยเราได้ (เช่น ช่วงไม่มีเงินตอนโควิดบางคนขาดรายได้ บางคนออกจากงาน)

5. โตกันแล้วไม่ควรยืมเงินกันแล้ว แม้ว่าบางคนจะมีรายได้มาก บางคนมีรายได้น้อยกว่าแต่ทุกคนก็ต่างมีรายจ่ายเหมือนกันและแตกต่างกันไป ฉะนั้นควรบริหารจัดการรับรายได้และรายจ่ายของตัวเองและไม่ยืมเงินคนอื่น ที่สำคัญการไม่ยืมเงินจะช่วยให้คบกันได้นานด้วย

6. วัยที่ต้องรู้จักเรื่องการคำนวณภาษี บางคนไม่รู้ว่าตัวเองเสียภาษีไปเท่าไหร่ในแต่ละปี แล้วทำไมต้องเสียเท่านั้น เพราะบริษัทเป็นคนคำนวณให้และหักไว้ตั้งแต่เงินเดือนเข้า พอถึงช่วงยื่นภาษีถึงจะรู้ว่าภาษีที่จ่ายไปหลายพันหรือหลายหมื่นบาทก็เสียดาย แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉะนั้นรีบวางแผนภาษีตั้งแต่กลางปีจะดีกว่า เพราะภาษีคือคือเงินที่เราสามารถขอคืนได้

7. สนุกกับการใช้เงินแต่ก็รู้จักเก็บเงินด้วย ใช้เงินให้เต็มที่เพราะไม่รู้จะตายวันไหนก่อนจะใช้เงินให้หักไปออมก่อนหรือลงทุนก่อน เหลือเท่าไหร่ก็ใช้ให้เต็มที่ อย่ารอให้ใช้แล้วเหลือค่อยมาออมเพราะมันมักจะไม่เหลือเลย

8. ออมเงิน/ลงทุนตอนอายุน้อยกับอายุเยอะต่างกัน เช่น ออมเงินตอนอายุ 25 กับตอน 35 มีค่าต่างกันเพราะระยะเวลาออมที่นานกว่าช่วยให้ออมที่ละน้อยๆได้ ไม่ได้หักโหม ระยะเวลาที่นานกว่าทำให้ได้ผลตอบแทนทบต้นจากดอกเบี้ยมากกว่า

9. อย่าพลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัท เพราะมันคือการลงทุนที่ได้ผลตอบแทน 100% หรืออมากกว่านั้น หลักการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือเราออมเท่าไหร่บริษัทให้อีกเท่านึง และยังได้ตอบแทนจากเงินที่ที่ลงทุนทั้งของเราและและบริษัทอีกด้วย (แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขให้ดีว่าต้องทำงานกี่ปีแล้วลาออกบริษัทถึงจะให้เงินสมทบก่อนนั้น เท่าที่เคยเจอมากจะต้องทำงานอย่างน้อย 5 ปี)

10. เชื่อเรื่องเงินดึงดูดเงิน/ใช้เงินทำงาน ถ้ามีเงินในบัญชีเหมือนมันดูดเงินมาเพิ่มให้เรื่อยๆ รู้สึกอยากเติมเงินเข้าไปในบัญชีเงินเก็บนั้นหรือลงทุนซื้อกองทุนนั้นเพิ่มเรื่อยๆ ยิ่งได้เห็นดอกเบี้ยหรือเงินปันผลที่จ่ายมาให้ก็ยิ่งอยากเก็บเพิ่ม

ไลฟสไตล์

11. อายุ 20 ต้นๆ ปาร์ตี้ยันเช้าได้ ร่างกายฟื้นตัวไวมากพออายุ 30 ร่างการเริ่มหมดพลังไวขึ้น

12. เข้าใจสิ่งที่พี่ๆ เคยบอกว่าพออายุ 30 วันหยุดอยากอยู่บ้านไม่อยากไปไหน แค่ได้นอนพักดูทีวีก็มีความสุขแล้ว ตอนนั้นฟังแล้วไม่เชื่อแต่ตอนนี้ ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าความสุขของวันหยุดคือการนอนโง่ๆ อยู่บ้าน เพราะทำงาน จ-ศ ก็เหนื่อยแล้ว (อัพเดทปี 2022 ลาออกมาทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตเต็มตัว มีความสุขกับการได้ออกไปข้างนอก ไปหาเพื่อนหรือไปหาลูกค้า ไม่รู้สึกเหนื่อยกับการทำงานแต่สนุกมากกว่าเพราะงานตัวแทนประกันเหมือนเป็นนายตัวเอง)

13.ชีวิตต้องมีแผนสำรองไว้เสมออย่างน้อยไม่เป็นไปตามแผนหลักก็ยังมีแผนสำรอง เพราะบางครั้งชีวิตก็ไม่ได้เป็นดั่งฝัน ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น นัดเพื่อนแต่เพื่อนเท ไปทำไรต่อดีละ หรือวันนี้จะออกไปข้างนอกต้องไปไหนก่อนเสร็จแล้วไปธุระที่ไหนต่อ ต้องขึ้นทางด่วนที่ไหน ใช้เวลากี่นาที เสร็จธุระจากตรงนั้นแล้วไปต่อที่ไหนได้อีกบ้าง แวะออกกำลังกายที่ยิมได้ไหม บลาๆ  หรือวันนี้จะทำงานชิ้นนี้แต่ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับงานชิ้นนี้ไม่ส่งงานต่อมาให้ ติดปัญหา เราจะต้องไปทำส่วนไหนก่อนระหว่างที่รอเพื่อไม่ใช้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

14. ชีวิตต้องมีแผน 3 ระยะ มีทั้งแผนระยะยาว ระยะกลาง ระยะสั้น ข้อนี้เอาความรู้จากการทำงานมาใช้ เวลาจะมีโครงการอะไรเราก็ต้องมีแผน ถ้าชีวิตไม่มีแผนก็เหมือนเดินทางที่ไม่มีจุดหมายไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะตื่นไปทำอะไร ส่วนตัวแล้วจะเขียนโน๊ตไว้ทุกวันว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรบ้าง หรือทุกวันศุกร์ผมมักจะเขียนว่า วันเสาร์ อาทิตย์นี้จะทำอะไรบ้าง ส่วนระยะยาวรายเดือนมีแผนอันไรที่ต้องทำในเดือนนั้นบ้าง รายปีมีอะไรที่ต้องทำให้เสร็จบ้าง

15. เจอเพื่อนๆน้อยลง เพราะแต่ละคนก็ต่างมีภาระ ความรับผิดชอบ หน้าที่การการที่ต้องทำ ยิ่งการเติบโตในการทำงานทำให้ความรับผิดชอบสูงขึ้น โอกาสรวมตัวหรือเจอกันก็น้อยลงไปด้วย

16. ไม่มีการลงทุนไหนคุ้มค่ากว่าการลงทุนในความรู้ ช่วงก่อนวัย 30 การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ช่วยต่อยอดในการทำงาน เพิ่มความสามารถเพื่อเพิ่มรายได้ (อัพเดท 2022 ยิ่งในช่วงที่ผ่านมาทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไวมาก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำงาน เทคโนโลยีใหม่ๆ ถ้าหยุดเรียนรู้ก็เหมือนเราล้าหลังไปเลย โดยเฉพาะช่วงโควิดที่ต้องเปลี่ยนจากการทำงานแบบเข้าออฟฟิศมาเป็นการทำงานที่บ้าน กระประชุมออนไลน์ หรือการทำการตลาดใหม่ๆ ตามพฤติกรรมลูกกค้าที่เปลี่ยนไป)

17. ต้องรู้จักการขายเพราะทุกคนต้องได้ใช้มัน ไม่ได้หมายถึงการขายสินค้าอย่างเดียวแต่รวมถึงการขายตัวเองหรือพรีเซ็นต์ตัวเองด้วย เช่น เวลาไปสัมภาษณ์งานก็เหมือนแนะนำตัวเองให้บริษัทเลือกเราเข้าทำงาน หรือถ้ามีโอกาสทำงานในแผนกที่ต้องไปพบลูกค้า/ เซลล์ พรีเซ็นต์งานก็มีการขายงานมาเกี่ยวข้อง

18. สกินแคร์เป็นสิ่งจำเป็นมาก ในช่วงวัย 20 ต้นๆ การนอนดึก ตื่นสายร่างการก็ยังดูสดชื่น พออายุมากขึ้นทำงานหนักขึ้น ริ้วรอย ความหมองก็มาเยือน บางคนถูกแซวกว่าแก่กว่าวัย การดูแลตัวเองหรือมีสกินแคร์ดีๆก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างน้อยสิ่งที่ควรมีหรือบำรุงก็คือครีมกันแดด

19. ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คนวัย 30 น่าจะเป็นคนที่ทำงานมาระยะหนึ่งมีและความรับผิดชอบในระดับนึง บางคนที่เก่งๆ ก็อาจจะเติบโตไว้ได้เป็นระดับหัวหน้า/ผู้บริการ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความคิด มีความรับผิดชอบและมีความเครียด อาจจะละเลยการดูและตัวเอง การพักผ่อนหรือไปออกกำลังกาย ถ้าเจ็บป่วยก็ทำงานลำบาก โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศที่ทักจะเป็นออฟฟิศซินโดรมกัน ฉะนั้นรักษาสุขภาพและออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ

20. ไม่ว่าจะวัยไหนก็ต้องมีวินัย เพราะมันช่วยให้ทุกเรื่องสำเร็จได้ จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เช่น วินัยในการออกกำลังกาย วินัยในการอ่านหนังสือสอบ วินัยในการทำงาน วินัยในการออมเงิน/ลงทุน (วินัย หมายถึง ระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ สำหรับควบคุมความประพฤติ)

มีอีกบทความเป็น “ข้อคิดที่ได้ในวัย 30 ปี”

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook Money and Insurance
Line
 : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713