การออมเงินโดยไม่มีเป้าหมายก็เหมือนขับรถอยู่บนถนนแต่ไม่มีมีการวางแผนและเลือกเส้นทาง ขับเท่าไหร่ก็ไม่ถึงปลายทางสักที และยังสิ้นเปลืองน้ำมัน เสียเวลา และสิ้นเเปลืองพลังงานอีกด้วย วันนี้ถ้าทุกอย่างอยากออมเงินให้สำเร็จอย่างที่ต้งอาการ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ผมมีเคล็ดลับดีๆ เดี่ยวกับการออมเงินให้ได้ตามเป้าหมายมาบอก เทคนิคนี้ผมได้เอามาใช้กับตัวเอง ใช้จริง ทำจริง เห็นผลจริง และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์เลยนำมาแบ่งปันต่อ นั่นก็คือ  “การออมเงินแบบ SMART”

SMART มาจากคำว่าดูดี ดูฉลาด หรืออาจจะเป็นการออมเงินที่ฉลาดก็ได้ ในอักษรแต่ละตัวนั้นยังมีความหมายแฝงอยู่สามารถอธิบายความหมายแต่ละตัวเป็นหลักการออมเงินได้ ดังนี้

S : Specific คือ มีความชัดเจนโดยระบุไปเลยว่าเงินที่ต้องการเก็บก้อนนี้สำหรับทำอะไร

M : Measurable คือ ระบุจำนวนเงินที่ต้องการเก็บ เช่น 50,000 หรือ 100,000 บาท เพราะถ้าเราไม่ระบุจำนวนเราก็จะทำไปให้เรื่อยๆ เอื่อยเฉื่อยโดยที่ไม่ได้โฟกัสเป้าหมายจริงๆ ว่าต้องให้ถึงเป้าหมายเท่าไหร่

A : Achievable คือมีวิธีการหรือแผนการที่จะทำให้เป้าหมายสำเร็จ ตัวอย่าง ถ้าอยากมีเงินเก็บ 50,000 แต่ทำงานประจำอย่างเดียวก็อาจจะเห็นผลช้าอาจจะคิดหาวิธีสร้างรายได้เพิ่มจากช่องทางอื่นๆ

R : Realistic คือ วิธีการหรือแผนการที่เราคิดไว้ต้องทำได้จริงๆ เช่น การหารายได้เสริมที่เกี่ยวข้องกับงานประจำ หรือการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อให้เหลือเงินเก็บมากขึ้น

T : Time คือระบุเวลาให้ชัดเจนว่าจะเก็บเงินก้อนนี้ให้ครบภายในช่วงเวลาใด เช่น 2 ปี, 5 ปี หรือ 10 ปี

พอเราระบุคำนิยามครบทั้ง 5 ข้อแล้วลองเอามารวมกันแล้วเขียนเป็นเป้าหมายรวม มาดูตัวอย่างกันครับ

ตัวอย่างแรก

  1. ส้มตั้งใจจะเก็บเงินไปเที่ยวญี่ปุ่น
  2. โดยไปเที่ยวจะต้องใช้เงินทั้งหมด 60,000 บาท
  3. เงินที่จะเก็บจะหักงานเงินเดือนที่เข้ามา 2,000 บาททุกเดือนก่อนเอาไปใช้
  4. เงินที่จะหักเก็บเดือนละ 2,000 ไม่น่าจะกระทบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพราะหักมาจากเงินช้อปปิ้งและเดือนไหนมีโอทีเพิ่ม ก็จะเก็บเพิ่มขึ้น อาจจะหางานอื่นๆเพิ่ม เสาร์อาทิตย์ด้วย
  5. เป้าหมายจะเก็บให้ได้ 20,000 บาท ภายใน 6 เดือนนี้ก่อนเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินและอีก 40,000 บาทจะเก็บให้ได้ภายใน 10 เดือนถัดไปก่อนที่จะเดินทาง

ตัวอย่างที่สอง

  1. มะนาวอยากเรียนต่อปริญญาโท
  2. ค่าเทอมทั้งหลักสูตร 150,000 บาท
  3. วางแผนการเก็บเงินจากเงินเดือนประจำ ให้ได้ส่วนหนึ่ง เอาเงินโบนัสปลายปีมาสมทบ และอาจจะหารายได้เสริม
  4. ตั้งใจว่าจะเก็บให้ได้ 50% (75,000 บาท) จากเงินเดือนประจำ ส่วนที่เหลืออีก 75,000 บาทจะเป็นเงินโบนัสและรายได้เสริม
  5. คาดว่าจะเริ่มเรียนอีก 2 ปี

เป็นยังไงบ้างครับกับเทคนิคการออมเงินแบบ SMRAT มีใครเคยเริ่มออมเงินแล้วไม่ได้ตามเป้าหมายกันไหม หรือออมไปแล้วเอามาใช้หมด อาจะเป็นเพราะเราขาดการวางแผนบางอย่างไปก็ได้ ซึ่งผมก็เคยเป็น ลองเปลี่ยนมาลองเทคนิคนี้ดูนะครับ รับรองว่าสำเร็จแน่นอน

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook Money and Insurance
Line
 : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713