พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว.. สำนวนจากอาจารย์ศิลป์ พีระศรีผู้ก่อนตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ผมเรียบจบมา ผมท่องประโยคนี้จนขึ้นใจและเอาประโยคนี้ไปใช้ตลอดตั้งแต่เรียนจบมา

พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว มันคอยเตือนใจหลายอย่างไม่ให้ตัวเองประมาทกับการใช้ชีวิต รวมถึงไม่พลัดวันประกันพรุ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงอาจจะสายไปแล้วก็ได้ มาดู 5 เรื่องที่อย่าพูดว่าเอาไว้ก่อน ไม่งั้นอาจจะสายไป

1. บอกรักและตอบแทนบุญคุณพ่อแม่

เราอายุเยอะขึ้นทุกวัน แต่พ่อแม่แก่ลงทุกวัน ไม่รู้ว่าท่านจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ บางคนอาจะสนุกกับการใช้ชีวิต บางคนอาจจะสนุกกับการทำงานจนลืมเรื่องพวกนี้ไป มัวแต่คิดว่า ถ้าเราประสบผลสำเร็จ พ่อแม่ก็จะดีใจ ถ้าเรามีเงินล้าน พ่อแม่คงภูมิใจ อย่าลืมว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ปลายทางเสมอไป แต่อาจอยู่ระหว่างทางที่เดินไปยังเป้าหมาย วันนี้ใครยังมีพ่อแม่อยู่ อย่าลืมบอกรักท่าน อย่าลืมดูแลท่านให้ดีก่อนที่จะสายเกินไปครับ

2. หาเป้าหมายตัวเองให้เจอก่อนอายุ 30

วัย 20 กว่าๆ เด็กใหม่ไฟแรง ล้มแค่ไหนก็ยังลุกขึ้นมาใหม่ได้ เจ็บแค่ไหนก็ยังสู้ใหม่ได้ ดังนั้น ถ้าอยากทำอะไร อยากลองอยากเรียนรู้อะไรให้เรียนทำก่อนอายุ 30 ปี เพราะถ้าพลาดไปเรายังมีเวลาเริ่มต้นใหม่ได้อีก ถ้าหลังจากอายุ 30 หรือหลังจากที่เรามีความรับผิดชอบที่หนักแล้ว เราอาจจะกลัวทำอะไรที่มีความเสี่ยงได้ เช่น มีครอบครัวก็ต้องทำอะไรที่จริงจังมากขึ้น จะมาลองผิดลองถูกบ่อยๆ ก็คงไม่ได้

3. เริ่มออมเงิน

พูดถึงเรื่องออมเงินหลายคนคงคิดว่าเอาไว้ก่อน ตอนนี้หาเงินต้องใช้ก่อนสิรีบออมทำไม กว่าจะอายุ 60 อีกตั้งนาน ความคิดแบบนี้ไม่มีถูกมีผิด เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกันก็มีแผนชีวิตต่างกันไป แต่เหตุผลที่อย่าลืมออมเงินเพราะ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินต่างๆ เราจะลำบาก อย่างตอนนี้ โควิดระบาด  ห้างปิด คนตกงาน บางบริษัทลดเงินเดือน บางบริษัทปลดคนออก ไม่ต้องรอถึงอายุ 60 ก็เห็นแล้วว่า แค่ไม่มีรายได้ 2 เดือนลำบากแค่ไหน ถ้าตอนเกษียณอายุ 60-80 ปี อยู่ได้โดยไม่มีรายได้เลยมีแต่รายจ่ายจะบำบากขนาดไหน

4. ดูแลสุขภาพ

วัยรุ่น วัยทำงานส่วนใหญ่มักคิดว่า เรายังแข็งแรง สุขภาพดี ใช้ชีวิตเต็มทีก่อนที่จะไม่มีแรง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกนะครับ แต่อย่าลืมว่าสุขภาพที่ดีไม่ได้สร้างแค่ เดือนสองเดือน อาจจะใช้เวลาเป็นปีในการสร้างและดูแล ผมเคยพี่ในฟิตเนสอายุประมาณ 40 ปีและถามเค้าว่าร่างการที่ดูดีแบบนี้ออกกำลังกายมาแล้วกี่ปี หลายคนบอกว่าอย่างต่ำ 5 ปี วันนี้ถ้าใครมัวแต่บอกว่าตัวเองยังแข็งแรงดี ไม่เจ็บป่วย ไว้ค่อยออกกำลังกาย อย่าให้ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ เริ่มออกกำลังกายตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพดีในวันข้างหน้า เพราะถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาตอนนั้นออกกำลังกายอาจจะไม่ได้ช่วยอะไร

5. วางแผนประกันชีวิต

ชีวิตเราทุกคนล้วนมีความเสี่ยง จะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิต บางคนตื่นเช้า ไปทำงาน เลิกงานกลับบ้าน ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ก็เสี่ยงน้อยไม่ใช่ไม่เสี่ยงเลย บางคนเดินทางไปทำงานหลายต่อทั้งนั่งมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ รถไฟฟ้า ผ่านสถานที่ก่อสร้าง เจอความเสี่ยงเยอะกว่า หลายคนคิดว่าประกันมีประโยชน์จริงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่ไม่เคยบอกตัวเองเหมือนกันว่าเวลาไหนละที่เหมาะสม เพราะชีวิตไม่แน่นอน วันที่เราคิดว่าเหมาะสมเหตุการณ์ต่างๆมันอาจจะเกิดไปแล้วก็ได้ บางคนจากไปโดยไม่ทิ้งอะไรไว้ให้ครอบครัวเลย อย่าลืมนะครับ พรุ่งนี้อาจจะสายเสียแล้ว

เป็นยังไงบ้างครับ 5 ข้อที่ได้อ่านมา มีกี่ข้อที่ทุกคนบอกกับตัวเองว่า เอาไว้ก่อน แล้วมีข้อไหนบ้างที่ลงมือทำไปแล้ว ทั้ง 5 ข้อนี้ล้วนเป็นที่สิ่งที่สำคัญในชีวิต แต่ข้อไหนจะสำคัญมากหรือสำคัญน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งสถานะครอบครัว อายุ อาชีพ ลองเช็คดูตัวเองควรทำข้อไหนก่อนจะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลังครับ

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook Money and Insurance
Line
 : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713