ในยุคที่ดอกเบี้ยปรับลงแล้วลงอีก จนแทบจะไม่เหลืออะไร ยุคที่เศรษฐกิจมองไม่เห็นเลยว่าอนาคตจะเป็นยังไง หลายคนที่กำลังคิดลงทุนหรือมีเงินทุนอยู่แล้วก็คงวางแผนว่าจะเอาเงินที่มีอยู่ไปไว้ที่ไหนดีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร

มีเพื่อนถามเข้ามาว่าแกชั้นจะเอาเงินที่มีอยู่ไปทำอะไรดีน่ะ? อยากซื้อกองทุนเพิ่ม เอ๊ะหรือซื้อประกันกับแกดี หรือว่าฝากไว้ในธนาคารแบบเดิมดี วันนี้ผมจะมาสรุปข้อดี ข้อเสียของสิ่งที่เพื่อนถามมาละกันว่า กองทุนรวม กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ เอาเงินไปลงทุนแบบไหนดี

กองทุนรวม

ข้อดี
– มีกองทุนให้เลือกหลายประเภทตามความเสี่ยงที่รับได้
– มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้บริการกองทุนค่อยลงทุนให้ว่าลงทุนในหุ้นตัวไหนจะได้ผลตอบแทนดี
– มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินทิ้งไว้ในธนาคาร
– บางกองทุนเช่น SSF/RMF สามารถเอาไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย

ข้อเสีย
– แม้จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสียงที่จะขาดทุนได้เช่นกัน
– เมื่อซื้อขายกองทุนจะมีค่าธรรมเนียมด้วยและกองทุนไหนมีเงินปันผลก็จะถูกหักภาษีด้วย

กองทุนรวมเหมาะกับคนที่อยากลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ แต่ไม่มีความรู้ ไม่มีเวลาติดตาม สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมมีนโยบายเอาเงินไปลงทุนในบริษัทนั้นๆ และคนที่ต้องการใช้สิทธิลดหล่อนภาษีก็เลือกกองทุนที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย

ประกันชีวิต

ข้อดี
– การซื้อประกันชีวิตจะได้ความคุ้มครองกรณีเราเป็นอะไรไปหรืออยู่ครบสัญญาจะได้เงินคืน
– สำหรับคนที่ต้องการลดลดหย่อนภาษีและได้ออมเงิน
– เงินคืนตามสัญญาของประกันไม่ต้องเสียภาษีเหมือนดอกเบี้ย

ข้อเสีย
– ตั้งแต่ดอกเบี้ยปรับลงแบบประกันผลตอบแทนสูงๆก็เริ่มปิด ตอนนี้เลยจะไม่ค่อยมีประกันสะสมทรัพย์ที่ผลตอบแทนสูงเหมือนเมื่อก่อน
– ต้องจ่ายเบี้ยจนครบสัญญาตามแผนที่เลือก

ประกันชีวิตเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีและต้องการความคุ้มครองชีวิตด้วย อาจจะเป็นคนที่มีครอบครัว เพราะเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างหลัง หรือว่าคนโสดต้องการทำไว้ให้พ่อกับแม่

ทั้งกองทุนรวมและประกันชีวิตต่างก็มีข้อดีข้อเสีย เคยได้ยินเรื่องอย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียวไหมครับ ถ้าเกิดตระกร้าใบนั้นตก ไข่ก็แตกหมด เราจึงควรกระจายไข่ไว้หลายๆที่ เหมือนกันกับการลงทุน ไม่ควรเทเงินไปส่วนใดส่วนหนึ่งทั้งหมดเพราะหากเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจตัวที่เกี่ยวกับเงินที่เราเก็บไว้เงินของเราอาจจะหายไปได้

เก็บเงินให้อยู่มัด ได้เงินเป็นล้าน

✅ เบี้ยประกันปีละ 22,444 (รายเดือนเพียง 1,799 บาท) จ่ายเบี้ยไปครบอายุเกษียณ รวมเป็นเงิน 592,876 บาท (ผู้หญิงอายุ 30 ปี)
✅ อายุ 31- 59 ปี รับเงินคืนทุกๆ 3 ปีๆละ 2,000 บาท ( รวม 18,000 บาท )
✅ อายุ 60 ปีรับเงินคืน 80,000บาท ( รวม 80,000 บาท )
✅ อายุ 61-65 ปี รับเงินคืนปีละ 30,000 บาท ( รวม 150,000 บาท )
✅ อายุ 66 -70 ปี รับเงินคืนปีละ 40,000 บาท ( รวม 200,000 บาท )
✅ อายุ 71-75 ปี รับเงินคืนปีละ 50,000 บาท ( รวม 250,000 บาท )
✅ อายุ 76-80 ปี รับเงินคืนปีละ 60,000 บาท ( รวม 300,000 บาท )
✅ อายุ 81-85 ปี รับเงินคืนปีละ 70,000 บาท ( รวม 350,000 บาท )
✅ อายุ 86-89 ปี รับเงินคืนปีละ 80,000 บาท ( รวม 320,000 บาท )
✅ อายุ 90 ปี รับเงินก้อนอีก 200,000 บาท

?รวมเงินคืนทั้งหมด 1,868,000บาท

✅ กำไรจ่ายที่จ่ายไป 1,275,124 บาท
✅ เสียชีวิตระหว่างสัญญา รับเงินก้อนตามความคุ้มครองตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 800,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook Money and Insurance
Line
 : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713