ผมว่าคน Gen Y รุ่นใหม่ช่วงอายุ 25-35 ปี น่าจะเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วทั้งในด้านรายได้ ด้านความรู้ ด้านความคิดไว มากกว่าคนยุคก่อนๆ อาจะเป็นเพราะเราสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้รวดเร็ว มีอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการหาความรู้ได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนที่ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะมีทั้งหนังสือ มีคลิปสอนการลงทุน คนรุ่นใหม่สามารถลงไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการลงทุนต่างๆ ได้ด้วยตัวเองแล้ว

เช่นเดียวกับประกันชีวิตแบบเดิมๆ ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เช่นในเรื่องความคุ้มครองชีวิต คนรุ่นใหม่อาจจะมองว่ายังไม่มีครอบครัวจะทำประกันชีวิตไปทำไมยังไม่รู้ว่าจะให้เงินก้อนนี้กับใคร หรือบางคนมองว่าทำประกันไปแล้วไม่ได้ใช้ และผลตอบประกันรูปแบบเดิมได้ผลตอบแทนน้อย อาจจะมองเรื่องการลงทุนมากกว่า จึงทำให้คนรุ่นใหม่ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องประกันชีวิตและไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้

จึงเป็นที่มาของประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตกับการลงทุนไปในตัวที่ตอบโจทย์กับคนช่วงอายุ 25-35 ปีมากขึ้น นั้นก็คือ “ประกันชีวิตควบการลงทุนหรือเรียกอีกอย่างว่า Uint-Linked” นั้นเเอง

  1. ประกันชีวิตควบการลงทุน (Uint-Linked) คือ ประกันที่ได้ความคุ้มครองชีวิตเมื่อเราจากไปและยังได้ลงทุนในกองทุนที่เราสนใจทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้น โดยจริงๆแล้วคอนเซ็ปต์ก็ยังคงเป็นประกันชีวิต ไม่ใช่การลงทุนทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราได้เลือกลงทุนจากเบี้ยที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปแล้ว
  2. ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Uint-Linked) จะแบ่งเบี้ยประกันออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนประกันชีวิตและส่วนของการลงทุน เมื่อจ่ายเบี้ยมาบริษัทจะหักส่วนที่เป็นประกันชีวิตและค่าธรรมเนียมต่างๆ ก่อน เหลือเท่าไหร่ก็จะเอาไปลงทุนตามกองทุนที่เราต้องการหรือถ้าใครไม่มีความรู้ เมืองไทยประกันชีวิตก็มีพอร์ตการลงทุนแนะนำตามระดับความเสี่ยงของแต่ละคนโดยได้เลือกกองทุนเด่นที่มีการบริหารงานที่ดีมาจัดเป็นพอร์ตแนะนำให้
  3. ส่วนของความคุ้มครองชีวิตสามารถเลือกทุนประกันได้สูงกว่าประกันแบบเดิมๆ เมื่อเทียบกับเบี้ยที่จ่ายเท่ากัน ชายอายุ 30 ปี เลือก Unit- Linked จ่ายเบี้ย 24,000 บาท เลือกความคุ้มครอง 2,000,000 บาท แต่ถ้าสมัครประกันชีวิตแบบเดิมแผน 99/20 อาจจะเบี้ย 24,000 บาทจะได้ความคุ้มครองเพียง 1,263,157.89 บาท เรียกได้ว่าจ่ายเบี้ยน้อยแต่ได้ความคุ้มครองสูงเหมาะสำหรับคนที่รัก พ่อ แม่ สามี ภรรยา หรือลูกที่เราอยากจะมอบเงินก้อนนี้ไว้ให้เค้าเวลาเราจากไปแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มีครอบครัวก็สามารถเลือกความคุ้มครองขั้นต่ำได้
  4. ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ( Unite-Linked) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เฉพาะส่วนของประกันชีวิต แต่ส่วนของการลงทุนจะลดหย่อนไม่ได้ ซึ่งเบี้ยที่หักในส่วนของประกันชีวิตถือว่ามีส่วนน้อยมากอาจจะไม่เพียงพอต่อการวางแผนภาษี ฉะนั้นใครที่ต้องการวางแผนในเรื่องภาษีประกันชีวิตควบคู่การลงทุนก็อาจจะไม่เหมาะ
  5. ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ( Unite-Linked) สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมเองได้ มีความเสี่ยงให้เลือกหลากหลายครับตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปถึงความเสี่ยงสูงทำให้ มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าประกันชีวิตแบบออมทรัพย์รูปแบบเดิม
  6. อยากลงทุนในส่วนของกองทุนเพิ่มก็ทำได้โดยอาจจะเฉลี่ยลงทุนแบบ DCA ทุกๆ เดือนซึ่งมีให้เลือกกว่า 50 กองทุน 9 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
  7. สามารถมารถหยุดจ่ายเบี้ยได้โดยความคุ้มครองจะไม่ขาดเพราะจะมีเงินส่วนของการลงทุนที่จะมาจ่ายเบี้ยแทนให้ มีความยืดหยุ่นมากกว่าประกันชีวิตแบบเดิมและยังปรับลดทุนประกันได้ตามช่วงชีวิต เช่น หัวหน้าครอบครัวอาจจะเลือกทุนประกันสูง เพื่อลูกๆ จะได้มีเงินสำรองไว้ใช่เมื่อเราจากไป เมื่อลูกๆ โตหรือเรียนจบแล้วก็ปรับลดความคุ้มครองลงได้

จากข้อดีของประกันชีวิตควบการลงทุน ( Unite-Linked) ทำให้เป็นประกันที่คนรุ่นใหม่ช่วงอายุ 25-35 ปีที่ชอบเรื่องการลงทุน ชอบความท้าทาย อยากได้ผลตอบแทนสูงกว่าประกันแบบเดิมให้ความสนใจกันค่อนข้างเยอะ เพราะช่วงวัยนี้ สามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าสามารถลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงให้ผลตอบแทนสูงได้ หรือไม่กล้าลงทุนสูงเพราะกลัวขาดทุนก็สามารถลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำแต่สูงกว่าการฝากเงินทิ้งไว้ในธนาคาร ที่สำคัญได้ความคุ้มครองชีวิตด้วย

รวมซีรีย์บทความการลงทุน

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook Money and Insurance
Website www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure