เทคนิคออมเงินตามวัย…คน Gen ไหนออมแบบไหนเวิร์กสุด

ไม่ว่าทุกคน จะอยู่ Gen ไหน ก็ใช้ชีวิตสนุกๆ ได้ หากเรารู้ว่ามีเงินออมเก็บไว้แบบไม่ต้องกังวลเมื่อยามจำเป็น เพราะเราฉลาดรู้ ฉลาดใช้ ฉลาดเก็บ ลองมาดูกันหน่อยว่าอายุการทำงานของคุณช่วงไหนควรเก็บเงินอย่างไรให้งอกเงยและไม่ลำบากเมื่อตอนสูงวัย โดยแบ่งเทคนิคการออมออกเป็น 4 ช่วงวัย ดังนี้

ช่วงอายุ 23-30 ปี

วัยเริ่มทำงานหรือ First Jobber ช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ หลายคนยังไม่ค่อยอยากเก็บเงินสักเท่าไหร่ มักจะหมดไปกับสิ่งสวยงามและการท่องเที่ยว แต่คนวัยนี้สามารถแบกรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างๆได้ ยังมีแรงและเวลาในการหาเงิน การออมในช่วงวัยนี้จึงเหมาะกับการออมในหุ้นหรือตราสารหนี้ระยะยาว ที่ทำให้เงินงอกเงยขึ้นได้ในอนาคต สามารถออมกับหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง แต่ยังคงต้องแบ่งเงินออมไว้กับธนาคารบ้างบางส่วนหรือออมเป็นประกันกันชีวิตแบบออมทรัพย์ที่มีเงินคืนระหว่างสัญญาด้วย

ช่วงอายุ 31-40 ปี

เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยที่หน้าที่การงานเริ่มลงตัว มองเห็นอนาคตของตัวเองและมีเป้าหมายที่แน่นอนในชีวิต ภาระและหน้าที่ที่จะต้องใช้จ่ายเงินเริ่มมีมากขึ้นจากสมัยวัยรุ่น การออมเงินในช่วงวัยนี้ เหมาะกับการลงทุนในความเสี่ยงที่น้อยลงมา อย่างตราสารหนี้หรือหุ้นที่มีกำไรปันผล รวมถึงลงทุนในธุรกิจส่วนตัวเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น นอกจากงานประจำที่ทำอยู่ และการออมในประกันชีวิตเพื่อกระจายการออมและสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย

ช่วงอายุ 41-55 ปี

ช่วงวัยที่มีความมั่นคงที่สุด แต่ก็เป็นช่วงที่มีภาระมากที่สุดเช่นกัน หลังจากใช้ชีวิตมาเต็มที่แล้วถึงเวลาที่จะต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบและหน้าที่มากมาย การออมในธนาคารและประกันชีวิต อาจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการลงทุน เพราะด้วยภาระและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มีมาก ความเสี่ยงที่น้อยกว่า และความปลอดภัยในการใช้เงินเมื่อยามจำเป็นอีกด้วย นอกจากนี้คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอาจจะต้องมองถึงแผนความคุ้มครองประกันชีวิตทุนสูงๆที่จะช่วยดูแลคนในครอบครัวเพื่อเป็นมรดกหรือเงินก้อนทิ้งไว้ให้คนที่รัก

ช่วงอายุ 55 ปีขึ้นไป

ช่วงวัยที่มีการทำงานน้อยลง หรือเข้าสู่วัยเกษียณ ดังนั้นการลงทุนหรือการเก็บออมเงินจำนวนมากอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ช่วงนี้เป็นช่วงที่สามารถใช้เงินที่งอกเงยจากการออมในช่วงที่ทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามยังควรเก็บเงินเพื่อใช้ในอนาคตด้วยเช่นกัน ดังนั้นการออมในช่วงนี้อาจเป็นการฝากธนาคารเพื่อดอกเบี้ยหรือการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้ เพื่อให้สภาวะการเงินมีความคล่องตัวและเพื่อให้มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินด้วยเช่นกัน

บทความจาก : เมืองไทย Smile Magazine

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook Money and Insurance
Line
 : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713