ความลับของ….มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

ถ้าถามทุกคนที่เล่นเฟสบุ๊คคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคนๆ นี้เพราะเค้าคือเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเฟสบุ๊ค และโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Instagram whatsapp เค้าคนนั้นก็คือ มาร์ก ซักคอร์เบิร์ก วันนี้ผมจะพามารู้จักกับมาร์ก ซักคอร์เบิร์ก และ facebook ว่ามีที่มาที่ไปยังไงถึงได้ยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ โดยผมได้อ่านและสรุปมาจากหนังสือ คนจะรวยช่วยไม่ได้ ครับ มาร์ก ซักคอร์เบิร์ก มีพ่อเป็นหมอฟัน มีแม่เป็นเป็นนักจิตวิทยา นับถือศานายิว มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เค้าจึงได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวตั้งแต่ยังเด็กๆ มาร์ก เคยได้รับรางวัลทางคณิตศาตร์ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์และสามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และเกมส์คอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่ยังเรียนมัธยม สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มาร์กมักจะโดดเรียน ไม่ทำการบ้าน และไปหมกหมุ่นอยู่กับการออกแบบเว็บไซต์และเขียนโปรแกรมซึ่งเป็นสิ่งที่เค้าชอบ เพื่อนเขาหลายคนนินทาว่าเขาเหมือนหุ่นยนต์ และไม่ค่อยมีเพื่อน เฟสบุ๊คเกิดขึ้นจากที่มาร์กเห็นว่าในมหาวิทยาลัยยังไม่มีเว็บไซต์ที่รวมรายชื่อ รูป และข้อมูลนักศึกษา จึงได้แฮ็กของข้อมูลของมหาวิทยาลัยแล้วนำาสร้างเว็บไซต์ชื่อว่า Freshmash.com ให้คนเข้าไปดูว่ามีรูปของคนที่ตัวเองรู้จักไหมและอยากจะให้คะแนนเท่าไหร่เหมือนกับการเปิดโหวตลงคะแนน หลังจากที่เปิดเว็บไซต์ได้ไม่นานก็มีคนเข้ามาดูจำนวนมากและมีการบอกต่อแบบปากต่อปาก มาร์กจึงเปิดให้คนอื่นสามารถใช้บริการได้โดยให้สร้างบัญชีและแก้ไขข้อมูลได้ตามใจชอบ โดยแก้ไขให้สร้างเพจที่มี 1 เพจต่อ 1 คนและให้คนอื่นสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งน่าสนใจมากกว่าการที่ให้เจ้าของเพจเขียนคนเดียว มาร์กได้เงินโฆษณาก้อนแรกจากการติดแถบโฆษณา และยังได้รับความนิยมจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ นอก ฮาร์วาดด้วย เช่น […]

5 ข้อต้องรู้ของกฏแรงดึงดูดเรื่องเงิน

กฏของแรงดึงดูดก็คือ จะดึงดูดสิ่งที่มีเหมือน กันเข้าหากัน ถ้าไม่รู้มันเป็นยังไงก็ให้ลองสังเกตคนรอบตัวที่เราคบอยู่หรือพูดคุยเรื่องๆ อย่างออกรสได้ครับ แสดงว่าเราอาจจะมีนิสัยเหมือนหรือคล้ายกับเค้า ถ้าเราชอบเรื่องการกิน แน่นอนว่าคนรอบตัวเราก็ต้องชอบกิน คุยกันเรื่องกินอย่างสนุก มีร้านใหม่ๆ ให้ไปลองตลอด ถ้าเราชอบปาตี้เราก็จะมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบปาตี้ อยากเที่ยวต้องนึกถึงกลุ่มนี้เท่านั้น ไปกับกลุ่มอื่นไม่สนุก ถ้าเราชอบคาเฟ่ ทุกวันหยุดต้องไปหาคาเฟ่ใหม่ลอง ไปถ่ายรูป เราก็จะหาเพื่อนที่ขอบแนวเดียวกันไปด้วยกัน บางคนอาจจะมีเพื่อนที่ชอบเหมือนกันหลายๆ แบบอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เช่นไป เที่ยว ไปปาตี้ ไปออกกำลังกาย ไปช้อปปิ้ง บางคนอาจจะมีเพื่อนแต่ละกลุ่มแตกต่างตามความสนใจ เช่น เวลาพูดถึงเรื่องหาของกินใหม่ๆก็ไปกับเพื่อนกลุ่มนึง เวลาออกกำลังกายก็ไปกับอีกกลุ่ม เวลาปาตี้ก็ไปกับอีกกลุ่มนึง นี่แหละครับเค้าเรียกว่าคนที่มีนิสัยเหมือนกันมักจะชอบทำสิ่งเดียวกันถ้าไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองเวลาไปกับคนบางกลุ่มที่มีนิสัยไม่เหมือนเราดู ตัวอย่าง เพื่อนกลุ่มนี้เวลาไปเจอ คุยแต่เรื่องที่เราไม่ได้สนใจ เรื่องลงทุน เรา ไม่รู้เรื่อง เราไม่อินด้วยมันก็ไม่สนุก ถ้าเราคบคนกลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ วันนึงเราก็จะซึมซับเรื่องนั่นไปเอง เราอาจจะสงสัยว่ามันคุยอะไรกันแล้วกลับไปหาข้อมูลเพิ่มศึกษาเพิ่มจะได้คุยกับมันรู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้สนิทมาก นานๆ มาเจอกันที่แล้วคุยเรื่องลงทุน เราไม่รู้ ไม่อิน ไม่ได้สนใจ เราอาจจะปลีกตัวออกมาแล้วไปหากลุ่มที่เราคุยเรื่องที่เราสนใจมากกว่า การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ กับคนที่เราไม่รู้จักมักจะเริ่มจากความสนใจ เช่น สนใจเรื่องการกินอาหารคลีน การออกกำลังกายพอได้คุยกับคนที่มีความรู้เรื่องนี้แล้วเราเข้าใจมากขึ้น อยากรู้เพิ่มเราก็อยากคุยกับเค้า ทีนี่พอรู้แล้วใช่ไหมครับว่าถ้าอยากจะรวยต้องเริ่มยังไง […]

“Kept แอปที่เป็นมากกว่าบัญชีเงินฝาก”

ใครอยากมีเงินเก็บต้องฟังทางนี้ เพราะวันนี้มีเรื่องดีๆ มาฝากว่า พื้นฐานของการวางแผนการเงินที่ถูกต้องตามทฤษฎีสามเหลี่ยมทางการเงินก็คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายและการมีเงินสำรองสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉินเช่น ตกงาน รถพัง ซ่อมคอมพิวเตอร์ บลาๆ โดยต้องมีสำรองอย่างน้อย 3-6 เดือนของรายจ่าย ซึ่งเงินส่วนนี้จะต้องเก็บไว้ในที่สามารถเรามาใช้ได้ง่าย แต่คงไม่ใช่เอาเก็บไว้ที่บ้านกันใช่ไหมครับ สุดยอดเทคนิควางแผนการเงิน (สามเหลี่ยมทางการเงิน) www.mtl-insure.com/article/เทคนิควางแผนการเงิน/ เราก็ต้องเอาเงินส่วนนี้ฝากไว้ในบัญชีธนาคารเพราะมันได้ดอกเบี้ย (แม้ว่าจะไม่สูงมาก) ไม่ใช่เอาไปซื้อหุ้นหรือลงทุนหมดนะทุกคน เพราะถ้าจำเป็นต้องถอนมันเอาออกมาไม่ได้ทันที การที่เราเอาเงินฝากไว้ในบัญชีธนาคารเราก็จะต้องเลือกให้ดีหน่อยนะทุกคน ไม่ใช่ว่าฝากไว้บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป เพราะมันได้ดอกเบี้ยน้อยมาก แต่ถ้าไปเลือกฝากประจำดอกเบี้ยสูงก็มีระยะเวลากำหนด ถอนออกมาก่อนก็ได้ดอกเบี้ยเท่ากับฝากบัญชีออมทรัพย์ทั้วไป แต่ตอนนี้ทุกคนไม่ต้องกลัวแล้วเพราะแต่ละธนาคารก็ออกผลิตภัณฑ์การเงินมาสู้กันเยอะแยะไปหมด ทำให้ลูกค้าอย่างเราๆ ได้ประโยชน์มากขึ้น อย่างล่าสุดบัญชีเงินฝากออนไลน์จากธนาคากรุงศรีที่ออกแอพ Kept มา มีข้อดีเยอะมากจนผมอดใจไม่ไหว ย้ายเงินฝากสำรองฉุกเฉินมาไว้ที่นี้แล้ว 5555 ลองมาดูว่า Kept ทำอะไรได้บ้างและมีข้อดียังไงบ้าง Kept เป็นแอปจากธนาคารกรุงศรีฯ ที่เปิดบัญชีออนไลน์ง่ายๆ โดยไม่ต้องไปธนาคาร Kept ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปโดยเดือนที่ 1-12 จะได้ดอกเบี้ย 1.6% และเดือนที่ 13-24 จะได้ 24% Kept จะคำนวณดอกเบี้ยให้เห็นทุกวัน (ส่วนตัวชอบมาหเพราะเห็นเงินเพิ่มแม้จะเพิ่มหลักหน่วย 555) […]

แผน 5 ปีที่จะเปลี่ยนชีวิตคนไปในทางทีดีขึ้นฉบับ “ลีกาซิง”

1. ลีกาซิงเป็นคนจีน มีพ่อเป็นครูใหญ่ ตอนเด็กๆ อายุประมาณ 12 ปี เกิดสงครามทหารญี่ปุ่นบุกจีน ลีกาซิงและครอบครัวจึงอพยพไปฮ่องกง 2. ลีกาซิงกับครอบครัวอยู่ฮ่องกงได้ประมาณ 2 ปีพ่อก็เขาก็เสียชีวิตด้วยโรควัณโรค เขาเสียใจมากและสัญญากับพ่อว่าจะทำให้ครอบครัวของตัวเองมีชีวิตที่ดี 3. หลังจากพอเสียชีวิต ลีกาซิงจึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว จึงต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปรับจ้างทำงาน เขาทำงานอย่างหนักวันละ 16-20 ชั่วโมงเพื่อหารายได้จนได้รับโบนัสมากกว่าเพื่อน และยังขยันตื่นเช้ามาอ่านหนังสือทุกวัน ตอนเย็นก็ไปเรียนพิเศษเพิ่ม โดยเขาจะซื้อหนังสือมือสองมาอ่าน พออ่านจบก็เอาไปขายเพื่อซื้อเล่มใหม่ 4.เขาได้เลื่อนตำแหน่งจากเด็กรับจ้างเป็นผู้จัดการโรงงานตอนอายุไม่ถึง 20 ปี และมีความคิดที่จะเปิดโรงงานเป็นของตัวเอง 5.เขาเก็บเงินได้ประมาณ 7,000 ดอลลาร์แล้วไปเปิดโรงงานพลาสติกเป็นของตัวเอง เพราะเขามองการณ์ไกลว่า ฮ่องกงหลังจากเพิ่งสิ้นสุดสงครามครั้งที่ื2 ธุระกิจพลาสติกมีความสำคัญเพราะพลาสติกสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย 6.เขาขยายธุรกิจโดยการผลิตดอกไม้พลาสติกเพื่อส่งออกไปต่างประเทศจนติดอันดับบริษัทที่ส่งออกดอกไม้พลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย 7. หลังจากที่ธุระพลาสติกโตแล้วยังขยายไปธุระกิจอื่นๆเช่น อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ท่าเรือ การสื่อสาร ปัจจุบันธุรกิจทั้งหมดได้ส่งต่อให้ลูกชายทั้งสองคน 8.ตอนเด็กเขายังได้สอนลูกชายให้รู้จักกับความลำบาก ขึ้นรถเมย์ รถไฟฟ้า ไปขายหนังสือพิมพ์และพาไปดูความลำบากขแงเด็กคนอื่นๆ ลี กาซิงได้แบ่งกันความรู้ทางด้านการเงินของเขาที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆได้ทำตาม เรียกว่า “แผน 5 ปีที่จะเปลี่ยนชีวิตคนไปในทางทีดีขึ้น” แผน 5 […]

กฏทอง 10 ข้อของวอร์เรน บัฟเฟตต์

ถ้าพูดถึงคนที่เป็นต้นแบบเรื่องการบริการเงิน การลงทุน หุ้น หลายคนคงต้องรู้จักเค้าคนนี้แน่นอน นั่นก็คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีที่โตมาจากการลงทุนในหุ้นเงินร้อยดอลลาร์จนกลายเป็น หมื่นล้านดอลลาร์ เชื่อว่าหลายคนคนสนใจในประวัติของคนนี้ว่าเค้ามีวิธีการลงทุนยังไงและมีการวางแผนการเงินยังไงให้รวยได้ขนาดนี้ มาดูกฏทอง 10 ข้อของที่วอร์เรน บัฟเฟต ได้ใช้กัน 1. ต้องทำงานให้หนัก เพราะส่วนใหญ่การทำงานหนักจะนำผลกำไรมาให้แต่ในขณะที่พูดมากแต่ไม่ทำจะนำความยากจนมาให้แทน 2. อย่าขี้เกียจ เขายกตัวอย่างที่น่าสนใจมากว่า “ขนาดกุ้งมังกรตัวโต ๆ ถ้ามัวแต่นอนหลับยังสามารถถูกกระแสน้ำพัดลอยไปได้” หมายความว่าถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย มัวแต่รอคอยความหวัง คุณจะต้องตกอยู่ในวังวนวิกฤตการณ์ทางการเงินนี้ต่อไปอย่างแน่นอน 3. รายรับจากหลายแหล่ง ข้อนี้เป็นเคล็ดลับของมหาเศรษฐีหลายคน ไม่ใช่เฉพาะวอร์เรน เพราะการพึ่งรายได้จากแหล่งเดียวทำให้ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงของภาวะที่ไม่แน่นอน เขาแนะนำให้ทำการลงทุนที่ฉลาดเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณควรมีรายได้ส่วนอื่นจากการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายรับเข้ามาในแต่ละเดือนได้ด้วย 4. ควบคุมรายจ่าย เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มจ่ายเงินซื้อสิ่งที่คุณไม่มีความต้องการจริงๆ คุณก็กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจต้องขายสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดแทน ดังนั้นคิดและตั้งสติก่อนที่จะจ่ายเงินซื้ออะไรในชีวิตเสมอ 5.ตั้งใจออม อย่ารอเก็บออมเงินที่เหลือหลังจากที่ได้ใช้จ่ายจนพอใจ แต่เราต้องกันเงินส่วนหนึ่งของรายได้มาเพื่อเก็บสะสมก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย 6.งดกู้ยืม คนที่กู้หนี้ยืมจากคนอื่นมักจะตกเป็นทาสของคนที่คุณไปกู้ยืม ดังนั้นต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงพยายามมีชีวิตอยู่ตามอัตภาพเท่าที่เราหามาได้ อย่าไปสร้างหนี้สร้างสินโดยไม่จำเป็น 7.จัดระบบบัญชี เขาใช้คำคมมาเปรียบเทียบว่า“ไม่มีประโยชน์ที่จะถือร่มกันฝน ตราบใดที่รองเท้าที่คุณสวมใส่นั้นยังมีรูอยู่เพราะมันทำให้เปียกเหมือนกัน” นั่นคือต้องอย่าทำให้มีจุดรั่วไหลของบัญชี 8.หมั่นตรวจสอบ […]

1 2 3 4 5 8