ประกันสุขภาพเอ็กตร้าแคร์ พลัส (Extra Care Plus)

 อายุรับประกันภัย : 11 – 90 ปี  ระยะเวลาคุ้มครอง : ถึงอายุ 99 ปี   ระยะเวลาชำระเบี้ย : ชำระเบี้ยได้ถึงอายุ 98 ปี   เงื่อนไข : ต้องมีสัญญาหลักก่อน (เลือกสัญญาหลัก) New Health Standard มาตรฐานประกันสุขภาพใหม่ คืออะไร? New Health Standard มาตรฐานประกันสุขภาพใหม่ เป็นการปรับปรุงเนื้อหาและเงื่อนไขของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพหรือค่ารักษาพยาบาลที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จัดทำขึ้นใหม่หรือปรับปรุงใหม่ในเรื่องของหมวดตารางความคุ้มครองและเงื่อนไขความคุ้มครองอื่นๆ ในกรมธรรม์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม (คลิ๊ก) แผนนี้คุ้มครองอะไรบ้าง โรคระบาด โรคร้ายแรงทุกระยะ โรคทั่วไป โรคโควิด 19 การแพ้วัคซีน โควิด 19 เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เสียชีวิตจากการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ และโรคร้ายแรง แผนนี้เหมาะกับ ลูกค้าที่สวัสดิการประกันกลุ่มอยู่ ต้องการค่าห้องหรือค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม ลูกค้าที่ประกันสุขภาพส่วนตัวอยู่แล้ว ต้องการค่าห้องหรือค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม […]

วางแผนการเงินให้มีใช้ถึงสิ้นเดือน

หลายคนคงมีปัญหากับบริหารเงินที่ได้มาด้วยเหตุผลที่ว่ามันมักจะใช้หมดก่อนสิ้นเดือน ตัวผมก็เช่นกันเคยทดลองทำหลายวิธีทั้งการจดบันทึกรายรับรายจ่ายแต่วันมัน สิ้นเดือนก็มาสรุปดูว่ามีใช้จ่ายไปกับค่าอะไรบ้าง รายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็นและสามารถตัดออกได้ พอเริ่มต้นเดือนใหม่จะได้ลดค่าใช้จ่ายส่วนนั้นออกไป แต่ไม่นานก็ลืมและเผลอใช้เงินเหมือนเดิม   จนได้มาเจอหนังสือ “ไม่ชอบประหยัด ไม่ถนัดตัวเลข ก็รวยได้” เขียนโดย อัย อิจิอิ หัวห้อ “จดสิ่งที่จะทำกับจำนวนเงินไว้คู่กัน” คุณอัยอิจิอิ ได้อธิบายว่า สมุดที่ใช้จด สิ่งที่ทำและจดจำนวนเงินที่ใช้ทำกิจกรรมนั้นๆ ไว้คู่กันด้วย โดยไม่จำเป็นต้องจดตัวเลขที่ถูกต้อง แต่ให้จดจำนวนคร่าวๆ ซึ่งจะช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจนว่าสัปดาห์นี้จะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่   เมื่อมีค่าใช้จ่ายใหม่เข้ามาจะทำให้เราควบคุมและเตือนตัวเองว่า สัปดาห์นี้มีรายจ่ายมากพอแล้ว การจดสองอย่างนี้พร้อมกันช่วยให้ประเมินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อเขียนเสร็จแล้วจะเห็นว่ารายจ่ายมีอะไรบ้างมีของชิ้นไหนที่อยากได้บ้าง หากเกินงบประมาณที่มีให้เรียงลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะทำหรือของที่จะซื้อ และตัดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนหรือเลื่อนไปเดือนหน้า   เมื่อผมลองนำวิธีนี้มาใช้โดยนำปฏิทินตั้งโต๊ะมาเพิ่มอีก 1 อัน อันเก่าใช้จดกิจกรรมทั่วไปที่ทำในแต่ละวันที่ผ่านมาเพื่อจะได้กลับมาดูว่าวันไหนทำอะไรไปบ้าง ส่วนอันใหม่ใช้จดกิจกรรมที่วางแผนจะทำพร้อมกับเงินที่จะใช้และของที่จะซื้อ เช่น ต้องไปปาตี้กับเพื่อนวันศุกร์พร้อมกับเงินที่คิดว่าจะใช้ หรือจะไปซื้อของที่ซูปเปอร์มาเก็ตวันไหนตั้งงบประมาณไว้ที่เท่าไหร่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ตต้องจ่ายวันไหนบ้างเป็นเงินเท่าไหร่   เราจะเห็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง ส่วนค่าใช้จ่ายรองที่ตามมาก็ลองเช็คเงินที่เหลือว่าเพอหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นจะได้เลื่อนออกไปก่อน หากมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเช่น ปาตี้รอบสอง หรือการซื้อเสื้อผ้า ของใช้ที่ไม่จำเป็นจะได้เตือนตัวเองได้ว่างบประมาณตอนนี้พอหรือไม่   ลองนำวิธีนี้ไปใช้จนเป็นนิสัยดูนะครับแล้วจะเห็นว่าแต่ละเดือนเราจะมีเงินพอใช้แน่นอน

เป้าหมายในการออมเงิน

  ถ้าเรามีเป้าหมายในการออมเงิน สมองเรามันจะสั่งการ มันจะคิดว่าเราจะต้องทำยังไงให้หาเงินมา จะเก็บเงินยังไง จะประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนไหน เราจะขยันมากขึ้นเพื่อทำงานให้ได้เงิน อะไรที่ไม่คิดจะทำ ไม่เคยทำก็จะได้ทำหมด ฉะนั้น การที่เราจะทำประกันเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต หรือทำประกันเพื่อเป็นค่ารักษายามเราเจ็บป่วย ก็ถือเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่ง ถ้าเราตั้งใจจริงก็จะทำได้ เดี่ยวสมองเราจะคิดเองว่าต้องขยัน ต้องทำงานเสริม ต้องหางานพิเศษ เว้นเสียว่า เราไม่ได้สนใจ ไม่ได้ตั้งใจทำมันจริงๆ ในชีวิตนี้มีเป้าหมายเรื่องอะไรกันบ้างครับ แล้วได้ทำอะไรให้เป้าหมายนั่นสำเร็จบ้าง หรือแค่นอนคิด นอนฝันเฉยๆ

ชีวิตที่มีเป้าหมาย

เคยสังเกตเวลาเครื่องบินกำลังจะบินขึ้นไหมครับ มันต้องมีใช้แรงขับเคลื่อนมากแค่ไหนให้หลุดพ้นจากแรงดึงดูดของโลก ก่อนที่มันก็จะลอยอยู่บนอากาศได้ ถ้าเครื่องบินไม่มีแรงขับเคลื่อนมากพอมันคงขึ้นไปบนอากาศไม่ได้ และไถลออกนอกรันเวย์ไป เช่นเดียวกับชีวิตคนเราเลย หากไม่มีเป้าหมาย วิ่งเหยาะๆ ไม่มีแรงขับเคลื่อนมากพอ ไปก็ไม่สุด หยุดอยู่แค่กลางทาง ชีวิตก็วิ่งไปทางที่เราไม่รู้ ไม่ตรงกับที่ต้องการ ฉะนั้น เอาเครื่องบินเป็นตัวอย่าง จะทำอะไร ต้องมีเป้าหมาย ทำให้สุด ทำให้เต็มที่ พุ่งทะยานออกไปอย่าได้กลัวจะผิดพลาด ตอนเริ่มแรกมันอาจจะตะกุกตะกักเหมือนเครื่องวิ่งบนรันเวย์ แต่เมื่อผ่านไปทุกอย่างจะเข้าที่เอง ถ้าเราพยายามมากพอ

ภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก

หลายคนกำลังกังวลเกี่ยวกับการเสียภาษีดอกเบี้ย ที่กรมสรรพากรได้ประกาศไป ซึ่งมีเงื่อนไขว่า หากบุคคลใดได้รับดอกเบี้ยเงินฝากทุกบัญชีจากธนาคาร ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 15% ลองคำนวณอย่างง่ายเพื่อดูว่าเราต้องมีเงินต้นเท่าไร จึงจะเสียภาษีดอกเบี้ย ถ้าเป็นบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี เงินต้น = 20,000 บาท/0.5% ต้องมีเงินฝาก 4,000,000 บาท ถ้าเป็นบัญชีฝากประจำดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี เงินต้น = 20,000 บาท/1.5% ต้องมีเงินฝาก 1,333,333 บาท จะเห็นว่า ถ้าหากเราจะต้องเสียภาษีดอกเบี้ย 15% ต้องมีเงินฝากถึง 4 ล้านบาท หรือ 1.3 ล้านบาทสำหรับบัญชีฝากประจำครับ ถ้าใครหากยังกังวลเกี่ยวกับการเสียภาษีดอกเบี้ย สามารถออมเงินไว้กับประกันชีวิต โดยเงินคืนที่ได้รับแต่ละปี ไม่ต้องเสียภาษีครับ ได้รับเต็มจำนวนเลย แผนเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 15/3 เบี้ยประกัน 200,000 บาท ชำระเบี้ย 3 […]

1 52 53 54 55 56 58