8 ข้อต้องรู้ สำหรับคนไม่มีประกัน

สวัสดีครับ ทุกคนรู้  โลกรู้ เพื่อนๆรู้ว่าประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพนั้นดียังไง แต่ทำไม่ถึงยังไม่มีประกัน? ถ้าการสูญเสียหรือการเจ็บป่วยนั้นยังไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่เรารัก ทุกคนคงจะบอกว่า “เอาไว้ก่อน”  แต่เมื่อการสูญเสียหรือการเจ็บป่วยนั้นเกิดขึ้นกับตัวเราแล้ว เราอาจจะไม่มีโอกาสที่จะสมัครทำประกันเลยก็ได้ ถ้าวันนี้ใครยังไม่มีประกันและไม่คิดจะทำประกันเลย หรือว่ากำลังหาอยู่ หรือว่าตัดสินใจไม่ได้สักทีมัวแต่ดูนั่นดูนี่ อยากให้ดู “8 ข้อต้องรู้ สำหรับคนไม่มีประกัน” ครับ ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นในทุกปี โรคภัยไข้เจ็บ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และค่าใช้จ่ายในการรักษาเมื่อเข้าโรงพยาบาลแพงมาก โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่อาจมีค่ารักษาสูงถึงหลักล้านบาท ดังนั้นการทำประกันสุขภาพ จึงเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดไว้สำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว เพื่อเป็นการโอนความเสี่ยงที่เราจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไว้เอง ให้ทางบริษัทประกันช่วยดูและเรื่องค่าใช้จ่ายให้ นอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลแล้วยังได้รับการบริการที่ดีจากโรงพยาบาลเอกชนอีกด้วย ร่างกายก็จะเริ่มสึกหรอไปตามวัย และมีโอกาสที่จะเกิดการเจ็บป่วยได้สูง เมื่ออายุมากขึ้น อาชีพการเงินและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ความเครียดก็เพิ่มตามไปด้วย ขึ้นมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย การทำประกันสุขภาพ จึงเป็นหลักประกันที่ช่วยการันตีว่า เมื่อเราไม่สบายจะมีเงินในการรักษาพยาบาลและยังมีเงินชดเชยเมื่อต้องนอนโรงพยาบาลด้วย ไม่เดือนร้อนจนต้องนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีออกมาใช้ หรือเดือนร้อนลูกหลาน เพื่อน หรือคนในครอบครัวต้องไปกู้เงินเพื่อมาจ่ายค่ารักษาให้กับเรา มีประกันสุขภาพติดตัวไว้อุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล การทำประกันสุขภาพจะช่วยให้เกิดความรู้สึกอุ่นใจและสบายใจ เพราะเมื่อเจ็บป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเฉพาะการเจ็บป่วยร้ายแรงที่ต้องนอนพักรักษาตัว บริษัทประกันก็จะทำหน้าที่ในการจัดการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแทนให้ จึงหมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลไปได้เลย นอกจากนี้ยังได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นเพื่อความอุ่นใจและสบายใจ จึงควรทำประกันสุขภาพเอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะการมีไว้แล้วไม่ได้ใช้ ยังดีกว่าวันที่จำเป็นต้องใช้แล้วไม่มี เลือกโรงพยาบาลที่รักษาได้ ไม่ต้องรอคิวนาน ถ้าทุกคนเคยเจ็บป่วยหรือมีคนรอบตัวเจ็บป่วยแล้วไปใช้สิทธิประกันสังคม […]

เลิกอ้าง 5 ข้อนี้แล้วจะมีเงินออม

ทุกคนรู้ว่าการเริ่มเก็บเงินนั้นเป็นสิ่งที่ยาก แต่ถ้าเราได้เริ่มทำจนติดเป็นนิสัยแล้ว เราแทบจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ยากหรือลำบากอะไรเลย (มันจะยากแค่ช่วงเริ่มต้น) เหมือนกับการทำสิ่งอื่นๆ ที่รู้สึกว่ามันยากในช่วงแรกแต่พอเวลาผ่านไปเราเคยชิน ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาเรื่องนึง ส่วนหนึ่งของการที่หลายคนที่ยังไม่ได้เริ่มออมเงินหรือไม่มีเงินเก็บอาจเป็นเพราะเหตุผลหลายอย่างของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ลองมาดู 5 เหตุผลที่เรามักใช้เป็นข้ออ้างแล้วเราไม่เริ่มเก็บเงินสักที ถ้าแก้ไขแต่ละข้อได้ รับรองว่ามีเงินเก็บเป็นก้อนแน่นอนครับ เงินเดือนน้อยไม่พอออม หลายคนคิดว่าการออมเงินจะต้องมีเงินเดือนเยอะ เงินเดือนเหลือใช้เท่าไหร่ค่อยเอามาออม บอกเลยว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะทฤษฎีการออมนั้นเมื่อได้เงินมาเราต้องออมก่อนแล้วค่อยใช้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะเอาเงินไปใช้หมดและไม่เหลือออม อีกอย่างที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะเงินเดือนน้อยหรือมากก็ออมได้ เพราะน้องๆ หลายคนที่เริ่มออมเงินก็เป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่ได้มีเงินเดือนสูงแต่มีวินัย มีความสนใจที่จะออมเงิน และออมเป็นเปอร์เซ็นตามรายได้ ลองเปลี่ยนทัศนคติการออมจากที่โฟกัสเรื่องรายได้สูงหรือน้อยเป็นเรื่องของการอยากออมเพื่อเป้าหมายดูนะครับ ค่าใช้จ่ายเยอะ บางคนบอกว่า ช่วงนี้มีค่าใช้จ่ายเยอะ จะออมเงินที่ไร มีรายจ่ายมาตลอด ไว้ไม่มีค่าใช้จ่ายค่อยเริ่มออม ข้อนี้ก็เป็นความคิดที่ผิดเหมือนกัน เพราะไม่มีช่วงไหนในชีวิตที่ไม่มีค่าใช้จ่าย  เราต้องแยกเงินออมกับเงินที่่่ใช้จ่ายออกจากกัน อย่างที่บอกคือได้เงินมาให้ออมก่อนเหลือแล้วค่อยใช้ ไม่ต้องออมมากก็ได้ ออมพอเหมาะสมที่เราจะไม่ลำบาก มีหนี้ที่ต้องจ่าย ช่วงนี้หนี้เยอะ ไม่พร้อมออมเงิน ผมอยากบอกว่าใครๆ ก็มีหนี้ เราต้องแยกให้ออกระหว่างหนี้กับเงินออม ถ้าเรารอให้หมดหนี้ ก็คงไม่มีเงินออม เพราะความอยากของเรามีตลอดเวลา หนี้ชิ้นนี้หมดก็มีหนี้อันใหม่ หากเป็นหนี้ก้อนใหญ่ เช่น บ้านกว่าจะผ่อนหมดก็ 10-20 ปี หรือระหว่างผ่อนบ้านก็อาจจะอยากได้โทรศัพท์มือถือใหม่ทำให้เป็นหนี้เพิ่มได้ ตัวคนเดียวออมไปทำไม สำหรับคนที่คิดว่าตัวอยู่ตัวคนเดียว […]

แบ่งเงินเดือนยังไงให้พอใช้ถึงสิ้นเดือน

เชื่อไหมครับว่าหลายคนที่มีปัญหากันส่วนใหญ่เกิดจากการไม่วางแผนการใช้เงินว่าต้องใช้สำหรับอะไรบ้าง หรือคิดว่าจะประหยัดอย่างเดียวแต่ประหยัดไม่ถูกวิธี มาดูวิธีแบ่งเงิน 3 ส่วน ซึ่งเป็นวิธีสุดคลาสสิคที่คนนิยมกันมาก ผมและคนรู้จักอีกหลายคนก็ได้ทำแบบนี้เหมือนกัน แต่อาจจะปรับสัดส่วนแตกต่างกันไปให้เหมาะสมกับไลฟ์ไสตล์และการใช้ชีวิตตัวเราเอง มาดูวิธีการแบ่งเงินเดือนว่าต้องทำยังไงให้พอใช้ถึงสิ้นเดือนกันครับ 1. รายจ่ายประจำ คือ รายได้ที่จำเป็นต้องจ่ายในทุกๆ เดือน เช่น ค่าผ่อนคอนโด/ค่าหอพัก/ค่าบ้าน ค่าส่วนกลาง ค่าเดินทาง เงินสำหรับให้พ่อแม่ หรือผ่อนสินค้าต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ผมให้ส่วนนี้สูงสุดไม่เกิน 60% (หรือประมาณ 50-60%) ของรายได้ ถ้าเมื่อไหร่อยากได้อะไรใหม่ๆ ต้องมาดูว่าส่วนนี้เกินหรือไม่ ถ้าเกิน 60% จะทำให้ส่วนอื่นเราลดลงและอาจจะมีปัญหาได้ 2. รายจ่ายในชีวิตประจำวัน หรือเพื่อดำรงชีพ เช่น ค่าอาหาร ค่าเที่ยว ค่าสังสรรค์กับเพื่อน กินข้าวนอกบ้าน ซื้อของใช้ส่วนตัวหรือเสื้อผ้าใหม่ส่วนนี้จะตั้งไว้ 35% (หรือประมาณ 35-45%) โดยจะไม่ให้เกินนี้ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะหลายคนที่ไม่ได้วางแผน อาจจะเอาเงินไปใช้กับส่วนนี้จนเงินก่อนสิ้นเดือนได้ 3. แบ่งเงินออม เงินลงทุน โดยคำแนะนำตามหนังสือหรือตำราต่างๆ อาจจะแนะนำให้เริ่มออมเงินที่ 10% […]

รู้ 3 สิ่งนี้แล้วจะมีเงินล้าน

หลายคนคงอยากมีเงิน 1,000,000 บาท กันใช่ไหมครับ ตัวผมเองก็อยากมีเหมือนกัน มาดูกันว่าเราจะมีเงิน 1 ล้านบาท เหมือนกันเลยพยายามศึกษาวิธีต่างๆ มากมายว่าทำยังไงจะให้มีเงิน หนึ่งล้านบาทได้ โดยเข้าไปเรียนหลักสูตรออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์ที่มีหลักสูตรการวางแผนการเงินมาหมาย และสรุปได้เป็นบทความนี้ ลำพังการเก็บเงินอย่างเดียวคงโดยไม่เอาเงินไปทำอะไรคงยากที่จะทำให้เราได้เงินถึง 1 ล้านบาท เราต้องเอาเงินที่เก็บลงทุนด้วย สิ่งที่ได้ก็คือดอกเบี้ย เงินปันผลหรือผลตอบแทนที่ทำให้เราได้เงิน ล้านเร็วขึ้น อีกหนึ่งสิ่งคือระยะเวลาของการเก็บเงินถ้าเราอยากได้เงินล้านภายใน 1 ปี ก็ทำได้แต่ก็ต้องหาเงินอย่างหนัก แต่ถ้ายืดเวลาออกไปเป็น 5 ปี หรือ 10 ปี เราก็ไม่จำเป็นต้องออมแบบอดมื้อกินมื้อ แต่ค่อยๆ ออมทีละเล็กละน้อย ฉะนั้นยิ่งระยะเวลาสั้นยิ่งต้องออมเยอะกว่าระยะเวลาออมแบบยาวๆ มาดู 3 สิ่งต้องรู้จะมีเงินล้านโดยจะเปรียบเทียบเป็นการปลูกกล้วยให้ทุกคนดูกันครับ เงินต้น/เงินลงทุน ถ้าเปรียบการลงทุนเป็นการปลูกกล้วย เงินต้น/เงินลงทุน ก็เหมือนต้นกล้วยที่เราเอามาปลูก ไม่มีต้นกล้วยก็ไม่มีสิ่งที่จะออกลูก ออกผลให้เรากิน ถ้ามีต้นกล้วยเยอะก็มีโอกาสที่เราจะได้กล้วยมากินเยอะขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุน ถ้าไม่มีเงินต้น/เงินลงทุน ก็ไม่มีเงินที่จะมาสร้างผลตอบแทนให้เรา ถ้ามีเงินต้น/เงินลงทุนเยอะก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากเงินนั้นเยอะขึ้นไปด้วย ฉะนั้นการลงทุนไม่ควรหยุดอยู่กับเงินก้อนเดียวเมื่อตอนเริ่มต้น แต่ควรออมหรือลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีเงินที่จะมาสร้างผลตอบแทนให้เรา ระยะเวลา เมื่อเรานำต้นกล้วยมาปลูกแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะออกลูกให้เรากินเลย ต้องรอถึงฤดูของมันหรือให้เวลามันก่อน ยิ่งเราปลูกไว้นานเท่าไหร่ก็จะได้กินกล้วยไปเรื่อยๆ  เช่นเดียวกับการลงทุนที่ต้องใช้เวลาเหมือนกัน […]

พกร่มติดตัว แม้ในวันนี้ฝนไม่ตก

อย่ามองโลกในแง่ดีว่าวันนี้ฝนจะไม่ตกเหมือนกับการมองโลกในแง่ดีว่าวันพรุ่งนี้คุณจะไม่ป่วย เรารู้ว่าช่วงนี้เป็นฤดูฝนนั่นหมายถึงว่าสามารถเกิดฝนตกได้ทุกวัน ถ้าหากมีการเตรียมพร้อมโดยการพกร่มติดตัวก็ช่วยให้ป้องกันการเปียกฝนได้ เช่นเดียวกับความคุ้มครองในชีวิตเราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรถ้าเราไม่เตรียมพร้อมหรือวางแผนไว้ตั้งแต่วันนี้ก็อาจทำให้เราต้องลำบาก ชีวิตสะดุดได้ หากวันนี้ฝนตกแต่เรามีร่ม เรายังมีทางเลือกว่าจะรอหรือกางร่ม แต่ถ้าไม่มีร่มคงต้องรอให้ฝนหยุดหรือยอมเดินเปียกฝนเพื่อไม่ให้เสียเวลารอ เช่นเดียวกับประกันสุขภาพหรือความคุ้มครองชีวิตถ้าหากเรายังไม่มีอะไรเลย ชีวิตก็มีทางเลือกไม่มาก คือตามมีตามเกิด หรือเราจะเลือกทางทีดีกว่าโดยสร้างทางเลือกของเราขึ้นมา แต่ชีวิตเราไม่เหมือนฝนที่จะหยุดรอได้ เพราะหากต้องรออาจจะสายไปแล้วสำหรับชีวิตคนๆหนึ่ง ปล. พกร่มติดตัว แม้ในวันนี้ฝนไม่ตก มีคุ้มครองติดตัว แม้จะวันนี้ยังไม่ได้ใช่ แต่ก็ดีกว่าวันที่จำเป็นต้องใช้แต่ไม่มี __________________________________________ ร่มจะไม่มีค่า ถ้าวันนั้นอากาศดี แต่จะมีค่า เมื่อวันนั้นแดดออก หรือฝนตก ยังไงเราก็ต้องมีร่มติดบ้านไว้ใช้ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนที่จะต้องใช้มัน เช่นเดียวกับประกัน ถ้าสุขภาพดี ก็ไม่ต้องมีประกันสุขภาพ แต่ใครจะมั่นใจได้ว่าจะสุขภาพแข็งแรงตลอด หรือชีวิตนี้จะไม่เกิดอุบัติเหตุเลย ถ้าไม่มีติดตัวไว้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ อาจจะลำบากยิ่งกว่าหาร่ม เพราะไม่ได้หาซื้อแล้วใช้ได้เลย =============== ติดตามช่องทางอื่นของเรา Facebook :  Money and Insurance Line : https://lin.ee/cAyHd1Q Website : www.mtl-insure.com IG : www.instragram.com/mtl_insure Group : www.facebook.com/groups/190206858958713

1 42 43 44 45 46 50