ไม่มีประกันสุขภาพวันนี้ อาจเป็นหนี้ก้อนโต ในวันหน้า

ไม่มีประกันสุขภาพวันนี้ อาจเป็นหนี้ก้อนโต ในวันหน้า สวัสดีครับทุกคน เราทุกคนรู้ว่าการเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะเจ็บป่วยเล็กน้อยที่รับมือไหว หรือเจ็บป่วยใหญ่ที่เกินจะรับมือ วันนี้ถ้าทุกคนกังวลเรื่องนี้ อาจจะต้องรีบวางแผนซื้อประกันสุขภาพ เพื่อมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในวันที่เราอาจจะไม่มีเงินก้อนเป็นค่ารักษา เพราะไม่มีประกันสุขภาพวันนี้ อาจเป็นหนี้ก้อนโต ในวันหน้า คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม กับแผนประกันสุขภาพ ดีเฮลท์ ที่เหมาจ่ายตามจริง ทั้งค่าห้องเดียวมาตรฐานโรงพยาบาลที่เข้า และเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าหมอ ค่าผ่าตัด ค่ายา และทุกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลแบบผู้ป่วยใน ด้วยเบี้ยเพียง 23,577 บาท (1) คุ้มแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว เบี้ยถูกกว่าและความคุ้มครองมากขึ้น หลายท่านกำลังเปรียบเทียบว่าจะเลือกแผนไหนดีระหว่างค่ารักษาวงเงิน 1 ล้านบาทกับ 5 ล้านบาท แต่ผมขอแนะนำว่า แผนคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย 5 ล้านบาทต่อครั้งเบี้ยแพงกว่าแผนที่คุ้มครองค่ารักพยาบาลเหมาจ่าย 1 ล้านบาทประมาณ 1,500-2,000 บาทเท่านั้น (1) ชายอายุ 35 ปี (รวมสัญญาหลักแผนเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/20) แผน 1 ล้าน เบี้ย 22,080 […]

เปรียบเทียบประกันสุขภาพเหมาจ่าย Elite Health Plus และ D Health Plus

วันนี้เมืองไทยประกันชีวิต ได้อัพเกรดแผนประกันสุขภาพเดิมที่มีอยู่ Elite Health (อีลิท เฮลท์) เป็นแผน Elite Health Plus (อีลิท เฮลท์ พลัส)  และแผน D Health (ดีเฮลท์) เป็นแผน  D Health Plus (ดีเฮลท์ พลัส)  ใครกำลังมองหาประกันสุขภาพดีๆ แบบเหมาจ่ายสักแผนไว้คุ้มครองและช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่แสนจะแพงเมื่อเข้าโรงพยาบาล แต่ก็อาจจะยังตัดสินใจไม่ได้สักทีเพราะแผนไหนก็ดูคุ้มค่าไปหมด ลองมาดูความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นของทั้ง 2 แผนว่าจะเป็นแผนไหนดี ทั้งสองแผนเรียกได้ว่าเป็น Super Health ที่คุ้มครองนานสุดๆ ไปจนถึงอายุ 99 ปี ลองมาดูความแตกต่างว่าแผนไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา โดยผมทำเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของทั้ง 2 แผนตามมาตรฐานใหม่ของประกันสุขภาพที่ คปภ. ได้กำหนด แบ่งเป็น 13 หมวด ดังต่อไปนี้ หมวด 1 ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) Elite Health Plus […]

8 แบบประกันน่าซื้อและช่วยลดหย่อนภาษีจากเมืองไทยประกันชีวิต

ช่วงปลายปีแบบนี้เชื่อว่าหลายคนเริ่มคำนวณรายได้ที่ได้มาทั้งปีกันแล้วเพื่อที่จะได้วางแผนและเตรียมตัวลดหย่อนภาษีกัน วันนี้ขอมาอัพเดทตัวช่วยที่จะนำไปลดหย่อนภาษีกับ 8 แบบประกันน่าซื้อและช่วยลดหย่อนภาษีจากเมืองไทยประกันชีวิตครับ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เหมาะกับการออมเงินและลดหย่อนภาษีโดยจะลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท 1.เมืองไทย แฮปปี้ รีเทิร์น 99/7 แผนนี้เน้นลดหย่อนภาษีแบบคุ้มครองไปนานๆ คุ้มครองจนถึงอายุ 99 โดยจะลดหย่อนได้ 7 ปี ตามปีที่จ่ายเบี้ย และมีเงินคืนทุกๆปี 1.5% เหมาะกับคนที่ต้องการลดหย่อนภาษีและรับเงินคืนไปเรื่อยๆ ถ้าชอบแผนจ่ายสั้นและมีเงินคืนขอแนะนำแผนนี้ครับ แต่ถ้าครบ 7 ปีอาจจะต้องไปหาแผนใหม่เพื่อมาลดหย่อนภาษีอีก ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีแผนแบบไหนมาอีกบ้าง รายละเอียดแผน https://www.mtl-insure.com/insurance/happy-return/ 2.เมืองไทยซุปเปอร์เซฟเวอร์ 25/16 แผนนี้เน้นออมเพื่อลดหย่อนภาษีจริงจังเพราะทุกคนต้องทำงานไปอีกนานจนเกษียณและแน่นอนว่ารายได้เราต้องเพิ่มขึ้นและเสียภาษีต่อเนื่องอยู่แล้ว การถือแผนออมทรัพย์ระยะยาวเพื่อลดหย่อนภาษีจะมีประโยชน์กว่าเพราะถ้าเลือกแผนที่จ่ายเบี้ย 5-10 ปี พอจ่ายเบี้ยครบก็ต้องนั่งวุ่นวายมาหาแผนใหม่ตอนนั้นอาจจะไม่มีแผนออมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนดีๆ เหมือนตอนนี้แล้วก็ได้ รายละเอียดแผน https://www.mtl-insure.com/saving/super-saver-25_16/ 3.เมืองไทย รีไทร์เมนท์ พลัส 60 ถ้าทุกคนมองว่าจะต้องทำงานไปจนเกษียณและต้องลดหย่อนภาษีหรืออยากเก็บเงิน ไม่ต้องเสียเวลาไปหาแผนใหม่ในอนาคต เลือกแผนที่มีตอนนี้แล้วจ่ายเบี้ยยาวๆ เลย ต้องแผน รีไทร์เมนท์ พลัส 60 นี้เลย เริ่มออมหรือจ่ายเบี้ยตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเกษียณ เบี้ยที่จ่ายแต่ละปีก็เอาไปลดหย่อนภาษีได้ตลอดจนถึงอายุ 60 […]

ทำไมซื้อประกันสุขภาพต้องเลือกตัวหลักแบบคุ้มครอง 99 ปี!!

ถ้าพูดถึงเรื่องประกันสุขภาพลูกค้าใหม่ที่กำลังศึกษาประกันสุขภาพอยู่ หรือลูกค้าเก่าอีกหลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าทำไมต้องมีประกันชีวิตหลักก่อน หรือถ้าอยากซื้อแบบไม่มีประกันหลักไม่ได้หรอ และทำไมต้องซื้อตัวหลักที่ถือยาวถึงอายุ 99 ปีด้วย ตายก่อนจะได้ใช่แน่ๆ วันนี้มีคำตอบมาบอกครับ สิ่งที่ลูกค้าสงสัยคือทำไมต้องมีสัญญาหลักก่อนซื้อสุขภาพ ก็เพราะว่าเป็นข้อกำหนดของบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท ที่ต้องมีประกันชีวิตที่เรียกว่าสัญญาหลักและซื้อสัญญาสุขภาพเรียกว่าสัญญาเพิ่มเติมหรือสัญญาพ่วง ถ้าลูกค้าซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัยก็ไม่ต้องมีสัญญาหลักก็ได้ ตัวสัญญาหลักจะเลือกแบบที่เป็นออมทรัพย์ จ่ายเบี้ยสั้นๆ คุ้มครองช่วงเวลาหนึ่งเช่น 20 ปีและมีเงินก้อน หรือเลือกแบบคุ้มครองยาวๆ ไปจนถึงอายุ 99 ปีก็ได้ ทั้งสองแบบนี้มีข้อแตกต่างกัน และลูกค้ามักถามว่าทำไมต้องเลือกแผนคุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี มาดูรายละเอียดกันครับ สัญญาสุขภาพเป็นสัญญาเพิ่มเติมที่พ่วงกับตัวหลัก ถ้าตัวหลักจบสัญญาสุขภาพก็ต้องจบลงด้วย ถ้าเลือกตัวหลักเป็นแผนออมทรัพย์ที่คุ้มครองแค่ 20 ปี สมมติลูกค้าอายุ 30 ปี ตอนอายุ 51 ก็จะซื้อสุขภาพต่อไม่ได้เพราะสัญญาหลักจบแล้ว หากตอนนั้นลูกค้ามีโรคประจำตัวหรือโรคที่รักษาต่อเนื่องก็อาจจะทำประกันใหม่ไม่ได้ หรือทำได้แล้วโดนยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน ซึ่งจะหาบริษัทประกันที่รับทำได้ยาก ถ้าตอนอายุ 51 ปี ลูกค้าไม่โรคประจำตัวก็โชคดี แต่ก็จะต้องมาเริ่มทำสัญญาหลักใหม่เพื่อซื้อสุขภาพเพิ่ม ซึ่งสัญญาหลักก็จะคำนวณตามอายุ แน่นนอนว่าอายุ 51 ปีเบี้ยยอมแพงกว่าทำตอนอายุ 30 ปีแน่นอน จาก 4 ข้อที่บอกไปข้างบนนี้ทำให้ตัวแทนมักเสนอแผนสุขภาพคู่กับประกันชีวิตหลักที่คุ้มครองถึงอายุ 99 […]

4 ข้อแนะนำเลือกตัวแทนยังไงให้โดนใจไม่โดนโกง

ถ้าพูดถึง 10-15 ปีก่อน สมัยที่การหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิตหรือตัวแทนประกันคงเป็นเรื่องยาก จะค้นหาอะไรต้องไปถามคนรู้จักหรือถ้ามีคนแนะนำเค้าว่ายังไงก็ว่าตาม แต่ตอนนี้ปี 2020 โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องใช้อินเตอร์เน็ตได้ ความเร็วขั้นต่ำตอนนี้ก็น่าจะ 3G เราอยากรู้ข้อมูลประกันแบบไหน มีแผนอะไรไม่ต้องเสียเวลาไปถามเพื่อน หรือไปถามคนรู้จักว่ามีตัวแทนแนะนำไหม หากแยากรู้แบบประกันต่างๆ ไม่ต้องรอข้อมูลแบบประกันจากตัวแทนอย่างเดียวแค่หยิบมือถือขึ้นมาค้นหาใน Google ก็เจอข้อมูลแล้ว หากจะทำประกันสักเล่ม เรื่องที่ลูกค้าอยากรู้มากที่สุดคงเป็นข้อมูลตัวแทนและแบบประกัน เพราะประกันเป็นสัญญาระยะยาวที่ต้องมีตัวแทนดูแลและให้คำปรึกษา แต่จะรู้ได้ยังไงว่าตัวแทนคนนี้จะมั่นใจได้จริงๆ สมัยก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ตเราอาจจะเลือกตัวแทนจากคนที่แนะนำ คนรู้จัก ญาติพี่น้อง เป็นอันดับแรกๆ ตัวแทนจากอินเตอร์เน็ตหรือออนไลน์แทบไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้อินเตอร์เน็ตเข้าถึงหมดแล้วการจะหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมไปให้ความสนใจจากตัวแทนที่เราสามารถหาข้อมูลได้มากขึ้น มาดูว่าลูกค้าส่วนใหญ่เลือกตัวแทนจากอะไรบ้าง 1. ตัวแทนที่มีช่องทางการติดต่อหลากหลาย ช่วยให้เราหาข้อมูลตัวแทนได้ง่ายขึ้น ดูว่าตัวแทนที่การทำงาน การให้คำปรึกษาเป็นแบบไหน ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เช่น Facebook ของตัวแทน, Fan page, Line หรือเว็บไซต์ 2. บริษัทมีช่องทางการชำระเงินหลากหลาย การจ่ายเบี้ยประกันเป็นปัญหาที่เจอมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็ นั่นก็คือตัวแทนรับเงินจากลูกค้าไปแล้วไม่นำส่งบริษัท ถ้าเปลี่ยนจากการจ่ายเบี้ยด้วยเงินสดเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทหรือบัตรเครดิตก็จะทำให้มั่นใจขึ้นว่าเงินได้ถึงมือบริษัทประกันจริงๆ (อย่าลืมเช็คตอนโอนด้วยน้า) 3. เลือกตัวแทนจากคนรู้จักแนะนำ เป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่มั่นใจที่สุดเพราะ อย่างน้อยก็มีคนที่แนะนำที่เค้าเคยปรึกษาและศึกษาข้อมูลมาก่อน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นก็ยังที่เพื่อนที่หัวอกเดียวกัน 4. ตัวแทนที่ตอบคำถามได้ฉะฉาน […]

1 6 7 8 9 10 13